1.ไม้แดง เป็นไม้เนื้อแข็ง มีสีน้ำตาลอมแดง และมีจุดดำแทรกในเนื้อไม้ ลายค่อนข้างน้อย ลักษณะโดยรวมใกล้เคียงไม้ประดู่มาก โดยเมื่อใช้ไปนานๆจะมีสีแดงที่เข้มขึ้น ไม้แดงเป็นไม้ที่มีความแข็งแรงและมีราคาไม่สูงมากนัก นิยมนำมาใช้การก่อสร้างสำหรับงานภายนอกอาคารในส่วนที่ไม่ใช่โครงสร้าง เช่น ทำพื้นระเบียง ทำฝาบ้าน ฝ้าชายคา และรั้วไม้ นอกจากนี้เนื่องจากเนื้อไม้มีความแข็งมากจึงทำให้ไม้แดงมีคุณสมบัติการยืดหดตัวสูง ดังนั้นการใช้งานไม้แดงจึงควรตีเว้นร่องเพื่อป้องกันการขยายตัวของไม้จนทำให้เกิดการปริแตกได้ ไม้ชนิดนี้ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องปลวกหรือเพรียง และเป็นไม้ที่ต้านทานไฟในตัวด้วย อายุใช้งาน ราว 12-15 ปี
2. ไม้เต็ง เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีราคาถูกที่สุดในท้องตลาด ใช้สำหรับงานไม้ภายนอกอาคาร แต่ผิวไม้ไม่ค่อยมีลวดลายที่สวยงามมากนัก จึงมักจะไม่ค่อยใช้ในการสร้างสิ่งประณีต ส่วนใหญ่จะเหมาะแก่การสร้างส่วนที่รับน้ำหนักได้ดี มีความแข็งแรงทนทานดีมาก ทนต่อการใช้กรำแดดกรำฝน เนื่องจากเนื้อไม้มีความแข็งและเหนียว เหมาะสำหรับทำระแนง พื้นระเบียงไม้ภายนอก ซุ้มระแนงไม้ และประตูรั้วไม้ นอกจากนั้นยังใช้สำหรับเป็นโครงสร้างอาคารได้ดี อายุการใช้งานราวๆ 10-12 ปี
3.ไม้สน ปัจจุบันมีไม้สนนำเข้ามาขายในตลาดไม้บ้านเรามากมาย แต่ส่วนใหญ่ที่นำมาใช้ปูพื้นคือไม้สนชนิดโตเร็ว หรือที่เรียกว่า Radiata ซึ่งนิยมปลูกในประเทศนิวซีแลนด์ (วงปีของไม้จะห่างกัน) มีลักษณะเป็นไม้เนื้ออ่อน ที่มีลวดลายไม้ที่สวยงาม แต่มีความแข็งแรง เนื่องจากผ่านการอบและอาบน้ำยา เพื่อป้องกันการบิดงอรวมถึงแมลงกินไม้ต่างๆ มีตาไม้มากกว่าไม้เต็งและไม้แดง อายุใช้งานประมาณ 10 ปี ใช้สำหรับใช้ทำโครงสร้าง และไม้พื้น จุดเด่นของไม้สนชนิดนี้นั้นอยู่ที่ผู้ผลิตได้มีการเดินร่อง ลักษณะคล้ายลอนลูกฟูก เพื่อป้องกันการลื่นไว้ที่ผิวหน้าด้านบน จึงเหมาะกับงานปูพื้นภายนอกอาคาร ไม่ว่าจะเป็นพื้นทางเดิน พื้นระเบียง หรือพื้นรอบๆสระว่ายน้ำ
บริเวณที่เหมาะสม นิยมใช้เป็นพื้นไม้ภายนอกบ้าน อาทิ ระเบียงภายนอก ขอบสระว่ายน้ำ
4.ไม้รกฟ้า หรือ “ไม้เชือก” เป็นไม้เนื้อแข็งที่มีความละเอียดและเหนียวมาก มีสีน้ำตาลเข้มค่อนข้างดำใช้งานภายนอกได้ดีโดยเฉพาะทำพื้นระเบียง
บริเวณที่เหมาะสม นิยมใช้เป็นพื้นไม้ทั้งภายในและภายนอก